ตัวชี้วัด Fractal อาจฟังดูชื่อแล้วไม่เข้าใจ แต่เมื่อคุ้นเคยแล้วจะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นำมาใช้ประโยชน์ในการเทรดได้ มาดูลักษณะของ Fractal และแนวทางการใช้กลยุทธ์ตัวชี้วัด Fractal ในการเทรด

ตัวชี้วัด Fractal เป็นอย่างไร

Fractal เป็นรูปแบบเล็กๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในรูปแบบที่ใหญ่กว่า Fractal จะช่วยหาจุดกลับตัวหรือการดำเนินต่อที่อาจเกิดขึ้นกับการเคลื่อนไหวของราคา เปรียบได้กับระบบเตือนภัยล่วงหน้า เหตุผลที่นักเทรดนิยมใช้งานคือช่วยให้รู้ว่าตลาดกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงตอนไหน

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค Fractal จะเกิดขึ้นเมื่อการเคลื่อนไหวของราคาเกิดเป็นรูปร่างบนกราฟ รูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งติดต่อกัน 5 แท่งขึ้นไป ลักษณะเป็นดังนี้

●  Fractal ขาขึ้นเกิดขึ้นเมื่อมีจุดต่ำสุดล้อมรอบด้วยจุดต่ำสุดที่สูงกว่าสองจุดในแต่ละด้าน ซึ่งเป็นเหมือนรูปตัว “V” เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในกราฟราคา

●  Fractal ขาลงมีลักษณะตรงกันข้าม ประกอบด้วยจุดสูงสุดที่ล้อมรอบด้วยจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า 2 จุด ก่อตัวเป็นรูปตัว “V” กลับหัว

ตัวอย่างของ Fractal ขาขึ้นและขาลงบนกราฟ

เมื่อมองเห็นสิ่งเหล่านี้จะเป็นการบอกใบ้ว่าทิศทางตลาดอาจมุ่งหน้าไปทางไหน

คำอธิบายตัวชี้วัด Fractal

ตัวชี้วัด Fractal ทำหน้าที่ด้วยการชี้ให้เห็นรูปแบบเหล่านี้โดยอัตโนมัติด้วยลูกศรเล็กๆ

⬆️ ลูกศรขึ้นสำหรับ Fractal ขาขึ้น ชี้ให้เห็นถึงโอกาสซื้อที่อาจเกิดขึ้น

⬇️ลูกศรลงสำหรับ Fractal ขาลง อาจเป็นสัญญาณของจุดขาย

ตัวอย่างสัญญาณตัวชี้วัด Fractal บนกราฟ EUR/USD

ช่วยชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของตลาดง่ายขึ้น โดยไม่ต้องนั่งมองแท่งราคาอยู่ตลอดทั้งวัน

วิธีใช้ตัวชี้วัด Fractal ในกลยุทธ์เทรด

หลังจากได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำอธิบายตัวชี้วัด Fractal แล้ว ต่อไปจะพูดถึงวิธีใช้ตัวชี้วัด Fractal ในการเทรดจริง การตัดสินใจเทรดด้วยตัวชี้วัด Fractal เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ จึงควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น Moving Averages หรือ Alligator เพื่อสร้างกลยุทธ์เทรดที่แข็งแกร่ง

กลยุทธ์ตัวชี้วัด Moving Average + Fractal

  1. ค้นหาแนวโน้ม

    ก่อนอื่นให้หาแนวโน้มโดยรวมของตลาด กำลังเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง หรือตลาดที่ไม่มีเทรนด์ Fractal มักจะมีประโยชน์กว่าเมื่อตลาดมีทิศทางอยู่แล้ว
  2. หา Fractal

    เมื่อทราบแนวโน้มแล้ว ให้มองหาสัญญาณ Fractal บนกราฟ

    – หากอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ให้ดู Fractal ขาขึ้น (รูปร่าง “V”)
    – หากอยู่ในแนวโน้มขาลง ให้มองหา Fractal ขาลง (รูปแบบ “V” กลับหัว)
  3. ยืนยันด้วย MA

    อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจเทรดเพียงเพราะเห็น Fractal ใช้ตัวชี้วัดอื่นเพื่อยืนยันจุดเข้าเทรด

    – หาก Fractal ขาขึ้นเกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น ให้ตรวจสอบว่าราคากำลังทะลุขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ด้วยหรือไม่
    – หาก Fractal ขาลงปรากฏในแนวโน้มขาลง ให้ตรวจสอบว่าราคากำลังทะลุลงต่ำกว่าเส้น MA หรือไม่
  4. เข้าเทรด
    เมื่อยืนยันสัญญาณ Fractal แล้วก็ได้เวลาเข้าเทรด เปิดสถานะ Long ด้วยสัญญาณขาขึ้น และเปิดสถานะ Short ด้วยสัญญาณขาลง
ตัวอย่างการใช้ตัวชี้วัด MA + Fractal ร่วมกัน

กลยุทธ์ตัวชี้วัด Alligator + Fractal

  1. หาแนวโน้มและ Fractal

    หาแนวโน้มโดยรวมของตลาดและหาสัญญาณ Fractal บนกราฟ
  2. ยืนยันด้วยตัวชี้วัด Alligator

    – Fractal สัญญาณขาขึ้นถือว่าถูกต้องหากปรากฏต่ำกว่าเส้นกลางของ Alligator (สีส้ม)
    สัญญาณขาลงควรอยู่เหนือเส้นสีส้มของ Alligator
ตัวอย่างสัญญาณกลับตัวขาลงเมื่อใช้ Alligator + Fractal

กลยุทธ์ตัวชี้วัด Fractal สำหรับไบนารีออปชัน

หนึ่งในข้อดีที่สำคัญคือ Fractal จะปรากฏขึ้นในทุกกรอบเวลา ไม่ว่าจะสถานะระยะยาวหรือระยะสั้นก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Fractal ได้

หากสนใจเทรดไบนารีออปชัน Fractal อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเห็น Fractal ขาขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง อาจวางคอลออปชัน (Call Option) โดยเดิมพันว่าราคาจะยังคงไต่ระดับขึ้นภายในระยะเวลาหมดอายุที่กำหนด

การเทรดไบนารีออปชันที่ประสบความสำเร็จในทิศทางขาขึ้นด้วยสัญญาณจากตัวชี้วัด Fractal

Fractal ขาลงในช่วงแนวโน้มขาลงจะต้องเลือกพุทออปชัน (Put Option) ซึ่งเป็นการคาดว่าราคาจะลดลง

การเทรดไบนารีออปชันขาลงที่ประสบความสำเร็จด้วยสัญญาณจากตัวชี้วัด Fractal

แนวคิดส่งท้าย

Fractal อาจฟังดูซับซ้อน แต่เมื่อเข้าใจหลักการของตัวชี้วัด Fractal และเริ่มนำไปใช้งานก็จะเห็นว่าตัวชี้วัดนี้สามารถนำไปใช้กับเครื่องมือเทรดได้อย่างไร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการจดจำรูปแบบที่ช่วยแสดงให้เห็นจุดเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในตลาด อย่าลืมนำกลยุทธ์ตัวชี้ Fractal ไปใช้พร้อมการยืนยันด้วยตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น Moving Average หรือ Alligator เพื่อกรองสัญญาณหลอกออกไป

เทรดตอนนี้