หากคุณเป็นสายเทรดหุ้น คุณย่อมสังเกตเห็นความผันผวนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรค C19 ทำให้บริษัทได้รับบททดสอบ บางบริษัทสามารถกอบโกยได้มหาศาล แต่มีหลายแห่งที่ไม่สามารถต้านทานได้
แล้วคุณจะสำรวจหุ้นทั่วโลกที่มีนับร้อยได้อย่างไร มีหุ้นใดบ้างที่น่าสนใจในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
การเทรดหุ้นก็เหมือนกับการเดินเรือที่จำเป็นต้องเข้าใจวิธีการแล่นฝ่าพายุโดยหลีกเลี่ยงความเสียหายให้น้อยที่สุด การจัดการความเสี่ยงเป็นกุญแจสำคัญของการลดความสูญเสียที่ไม่จำเป็น
ลองดูกราฟข้างล่างของ Zoom (NASDAQ / S&P : ZM)
เส้นแนวตั้งสีเขียวหมายถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งภายหลังเราจะมองเห็นช่วง “ก่อน” การเริ่มต้นของวิกฤตตลาดหุ้น C19 Zoom มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตจากภายใน นั่นเป็นเพราะเหตุใด
เหตุผลคือซอฟต์แวร์การสื่อสารผ่านวิดีโอบนคลาวด์ได้รับการยอมรับทั่วโลก เพื่อให้บริษัทต่างๆ ผู้ให้บริการด้านการศึกษา และแม้แต่รัฐบาลยังคงทำงานต่อไปได้ตลอดช่วงที่มีการล็อกดาวน์ทั่วโลก
หากเราปรับการตัดสินใจเกี่ยวกับการเทรดตามข่าวปัจจุบันหรือทำการ “วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน” อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะสามารถเพิ่มโอกาสในการเทรดที่ประสบความสำเร็จ ดังคำพูดของ เบนจามิน แฟรงคลิน ที่ว่า “หากล้มเหลวในการเตรียมพร้อม คุณก็เตรียมตัวที่จะล้มเหลวได้เลย”
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 และเดือนตุลาคม 2020 หุ้นของ Zoom มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก $90 จนเกือบแตะ $600 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 550% โดยไม่มีเลเวอเรจ!
ตอนนี้มาดูกันที่ S&P 500 ดัชนีที่อยู่อาศัยของ 500 บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา (Zoom เข้าสู่ S&P ในช่วงต้นของปี เดือนมกราคม 2021)
กราฟข้างบนใช้แท่งเทียน 7 วัน สังเกตเห็นได้ว่าในช่วงเวลาเดียวกัน Zoom เริ่มมีอันดับสูงขึ้น S&P เริ่มถดถอยลงอย่างคงที่ (ตามเส้นแนวตั้งสีแดง) ในช่วงเวลาสั้นๆ ของเดือน เราได้เห็นการลดลงอย่างมากที่สูงถึง 35% (บวกลบ) ก่อนมีการปรับฐานทีละน้อยในช่วงที่เหลือของปี
กลางเดือนสิงหาคม 2020 ในที่สุด S&P ก็สามารถไต่กลับมาและทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $3,389.78 ตั้งแต่ช่วงตกต่ำเดือนมีนาคม 2020 ตอนนี้ดัชนี S&P อยู่ที่ $3,898.81 (ขณะที่เขียนบทความนี้) หรือมีการเติบโตประมาณ 80%!
กลับมาดูกันที่มหาเศรษฐีของ Forbes
ด้านล่างจะเป็นกราฟของ Amazon, Microsoft และ Tesla หุ้นทั้ง 3 ตัวมีผลงานดีมากตลอด 12 เดือนที่ผานมา
Amazon (NASDAQ / S&P: AMZN)
เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) อยู่อันดับ 1 ในรายชื่อมหาเศรษฐีของ Forbes ซึ่งมูลค่าสุทธิปัจจุบันของเขาอยู่ที่ 179.6 พันล้านดอลลาร์ Bezos คือผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Amazon
ราคาของหุ้นลดลงมาที่ $1,626.03 ในช่วงวิกฤต C19 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันจาก Amazon Fresh ในช่วงของการล็อกดาวน์ ราคาหุ้นจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $3,552.25 ในเดือนสิงหาคม 2020 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 118%
หากดูที่กราฟข้างล่าง (แท่งเทียนรายวัน) เราจะเห็นว่าหุ้นอยู่ในช่วงที่เข้าสู่เดือนกรกฎาคม 2020 หากเราคาดหวังที่จะเห็นความต่อเนื่อง หุ้น Amazon อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะรอการเพิ่มขึ้นซึ่งอาจทำราคาสูงสุดของก่อนหน้านี้
…ต่อไป Microsoft.
Microsoft (NASDAQ / S&P: MSFT)
บิล เกตส์ (Bill Gates) อยู่อันดับที่4 ในรายชื่อมหาเศรษฐีของ Forbes โดยมีมูลค่าสุทธิปัจจุบันอยู่ที่ 125.6 พันล้านดอลลาร์ บิล เกตส์ คือผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft
ราคาของหุ้นลดลงมาที่ $132.52 ในช่วงวิกฤต C19 Microsoft ได้ปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภคด้วยบริการคอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ Azure ซึ่งพยายามทำให้แบรนด์มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ หุ้น MSFT ถึงจุดสูงสุดตลอดกาล $246.13 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 85%
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดที่เราจะพูดถึงคือ Tesla
Tesla (NASDAQ / S&P: TSLA)
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) อยู่ดันดับ 2 ในรายชื่อมหาเศรษฐีของ Forbes มีมูลค่าสุทธิปัจจุบันอยู่ที่ 165.1 พันล้านดอลลาร์ อีลอน มัสก์ คือเจ้าของและผู้บริหาร Tesla
กราฟข้างล่างมี Dip มากวันที่ 31 สิงหาคม 2020 เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นการตัดสินของ Tesla ในการแบ่งหุ้น 5-1 นั่นคือมูลค่าของแต่ละหุ้นหารด้วย 5 ซึ่งหมายความว่าราคาอาจน่าสนใจกว่าและราคาไม่แพงสำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่ต้องการซื้อหุ้นทั้งหมด
ผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแบ่งหุ้น แต่ในกรณีนี้ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะได้รับ 5 หุ้นต่อ 1 หุ้นที่ตนเป็นเจ้าของ ซึ่งแปลว่ามูลค่าทางการเงินยังคงเท่ากัน
คำนึงถึงการแบ่งหุ้น ในช่วงวิกฤต C19 ราคาหุ้นลดลงต่ำสุดที่ $70.10 (ปรับยอดแล้ว) ปัจจุบัน อีลอน มัสก์ เป็นชื่อที่รู้จักกันในฐานะผู้ประกอบการที่สร้างสิ่งประดิษฐ์แปลกใหม่ ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับ โทนี่ สตาร์ก ตัวละครจากภาพยนตร์ เขามักเป็นประเด็นให้ถกเถียงและบุคคลสำคัญที่ได้รับการติดตาม ในกาลเดือนมกราคม 2021 หุ้น TSLA ทำราคาถึงจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $900.40 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1185%
ตัวเลขข้างต้นยังไม่รวมเลเวอเรจ! 1185% คือการเติบโตที่แท้จริงของหุ้น TSLA ในช่วงนี้
โดยพื้นฐานแล้วการเทรดมักมีความเสี่ยง แต่ถ้าเรารับฟังและให้ความสำคัญกับกิจการระดับโลกในปัจจุบัน เราก้จะสามารถปลดล็อกโอกาสที่รออยู่ และสร้างกำไรที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรด!