ในบทความก่อนหน้า เราได้กล่าวถึงรูปแบบต่อเนื่องของแนวโน้มเจ็ดประเภทที่ใช้ในการเทรดไบนารีออปชั่น บทความนี้เราจะมาต่อกันที่รูปแบบกราฟไบนารีออปชั่นอีก 6 รูปแบบ เพื่อหาการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในทิศทางของแนวโน้ม

Pin Bar (พินบาร์)
Pin Bar คือรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงภาวะอิ่มตัวของตลาดและการกลับตัวที่ใกล้เข้ามา ดูเหมือนเทียนที่มีตัวแท่งขนาดเล็กและมีเงาที่ยาวมาก
คุณสมบัติที่โดดเด่น:
- ตัวแท่งเทียนขนาดเล็ก สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าราคาพบตำแหน่งดุลยภาพ กระทิงไม่ต้องการจ่ายเพิ่มและกำลังแก้ไขตำแหน่ง ซึ่งหมายความว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนทิศทางในไม่ช้า
- เงายาวด้านหนึ่ง ตัวแท่งควรมีความยาว 20-30% ของเงาหรือน้อยกว่า
- ด้านหลังมีเงาสั้นหรือไม่มีเงา
คุณรู้จักพิน็อกคิโอ เด็กชายที่จมูกจะยาวเมื่อเขาพูดโกหกใช่มั้ย? รูปแบบ Pin Bar เรียกอีกชื่อว่า Pinocchio Bar เมื่อใดก็ตามที่เห็น “จมูก” ยาวๆ บนกราฟ คุณสามารถบอกได้ว่ามันกำลังโกหกคุณเกี่ยวกับทิศทางของแนวโน้มในอนาคต
กดที่ Higher เมื่อ:
- มีแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
- เงาของ Pin Bar ชี้ลง
- แท่งเทียนก่อนหน้าอยู่ในทิศทางของแนวโน้มหลัก
- แท่งเทียนถัดไปอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม
กดที่ Lower เมื่อ:
- มีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
- เงาของ Pin Bar ชี้ขึ้นด้านบน
- แท่งเทียนก่อนหน้าถูกสร้างขึ้นในทิศทางของแนวโน้มหลัก
- แท่งเทียนถัดไปอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม
Head and Shoulders (หัวและไหล่)
นี่คือรูปแบบกราฟไบนารีออปชั่นอีกรูปแบบที่ตั้งชื่อตามลักษณะของมัน รูปแบบหัวและไหล่จะมีสามยอด (“ไหล่” สองอัน และ “หัว” หนึ่งอันที่ใหญ่กว่า) และเส้นคอที่แสดงถึงระดับแนวรับ ซึ่งจะส่งสัญญาณความน่าจะเป็นสูงสำหรับการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นปัจจุบัน แปลว่าแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้ามีแนวโน้มจะสิ้นสุดลง
การก่อตัวของรูปแบบ
- เมื่อราคาสูงเกินไปสำหรับสภาวะตลาดปัจจุบัน กระทิงจะถอยกลับ และหลีกทางให้หมีดึงราคาลง หากราคาทดสอบขาลงแล้วเด้งกลับ เราจะได้ไหล่ซ้ายของรูปแบบ
- กระทิงพยายามดันราคาขึ้นอีกครั้ง นี่คือวิธีที่หัวถูกสร้างขึ้น
- กระทิงอ่อนแรงแต่ยังไม่ยอมแพ้ กระทิงพยายามดันราคาขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ ก่อให้เกิดเป็นไหล่ขวา มันจะอยู่ต่ำกว่าหัว
- หมีเข้ายึดและดึงราคาลง ตอนนี้มันแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นจึงทะลุเส้นคอ





เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น คุณรู้ว่าแนวโน้มจะลดลงต่อชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการกดปุ่ม Lower
รูปแบบหัวและใหล่สามารถเป็นแบบกลับหัวได้ ซึ่งจะดูเหมือนกันแต่ตรงกันข้าม และส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาลง
เมื่อราคาทะลุเส้นคอจากด้านล่าง คุณจะรู้ว่ามันเป็นสัญญาณแนวโน้มขาขึ้น กดปุ่ม Higher
สองยอดขาขึ้น (Double Top)/สองยอดขาลง (Double Bottom)
รูปแบบนี้จะชี้ให้เห็นการกลับตัวของแนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาวที่กำลังจะเกิดขึ้น สังเกตได้ง่ายบนกราฟ สองยอดขาลง (Double Bottom) ประกอบด้วยจุดต่ำสุดสองจุดที่มีขนาดเท่ากันหรือเกือบเท่ากัน และดูเหมือนตัวอักษร W ส่วนสองยอดขาขึ้น (Double Top) คือจุดสูงสุดสองตัวที่ดูเหมือนตัวอักษร M
รูปแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มที่มั่นคงยาวนาน:
- ในรูปแบบสองยอดขาขึ้น (Double Top) ราคาจะพยายามทำลายแนวต้านสองครั้ง และเด้งกลับเพราะแนวต้านแรงเกินไป หลังจากนั้นเราสามารถคาดหวังแนวโน้มขาลงใหม่
- ในทำนองเดียวกันสองยอดขาลง (Double Bottom) จะเกิดขึ้นเมื่อราคาพยายามไปให้ถึงระดับแนวรับ และหลังจากพยายามไม่สำเร็จครั้งที่สอง มันก็เปลี่ยนเส้นทางเป็นแนวโน้มขาขึ้นใหม่
- เปิดออปชัน Call/Higher เมื่อราคาปิดเหนือเส้นคอ
- เปิดออปชั่น Put/Lower เมื่อราคาปิดต่ำกว่าเส้นคอ
สามยอดขาขึ้น (Triple Top)/สามยอดขาลง (Triple Bottom)
รูปแบบกราฟไบนารีออปชั่นแบบสามยอดขาขึ้น (Triple Top) และสามยอดขาลง (Triple Bottom) มีลักษณะคล้ายคลึงกับรูปแบบสองยอดมาก รูปแบบนี้เป็นลำดับของจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดสามครั้งที่พยายามทำลายแนวต้านหรือแนวรับ และส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มปัจจุบัน
- เปิดออปชั่น Call/Higher เมื่อราคาปิดเหนือเส้นคอ
- เปิดออปชั่น Put/Lower เมื่อราคาปิดต่ำกว่าเส้นคอ
สามยอดขาขึ้น (Triple Top) และสามยอดขาลง (Triple Bottom) พบเจอได้น้อยกว่าสองยอดขาขึ้นและสองยอดขาลง ทำให้นักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์เข้าใจผิด เมื่อมียอดสองยอดเกิดขึ้น นักเทรดมือใหม่จำนวนมากจะไม่เห็นจุดที่สามและจบลงด้วยการเปิดเทรดที่ขาดทุน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอดทน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเทรด





สรุป
รูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มช่วยระบุช่วงเวลาที่แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว รูปแบบหัวและไหล่ (Head and Shoulders) สองยอดขาขึ้น (Double Top) สองยอดขาลง (Double Bottom) สามยอดขาขึ้น (Triple Top) สามยอดขาลง (Triple Bottom) และรูปแบบ Pin Bar สามารถให้สัญญาณที่เชื่อถือได้ ตราบใดที่คุณใส่ใจมากพอที่จะมองเห็นบนกราฟ
แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น คุณควรฝึกฝนตัวเองเพื่อหารูปแบบบนกราฟโดยใช้บัญชีทดลอง และใช้ร่วมกับตัวชี้วัดทางเทคนิค ตัวอย่างเช่น รูปแบบการกลับตัวจะทำงานได้ดีกับตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Stochastic และ RSI