หากคุณกำลังจะลงทุนในหุ้น การตัดสินใจแรกคือ คุณจะเป็นนักเทรดระยะสั้นหรือนักลงทุนระยะยาว เมื่อคุณพบคำตอบแล้ว คุณต้องทำการเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้อย่างระมัดระวังในกิจวัตรการเทรดประจำวัน
สำหรับนักลงทุนหุ้นส่วนใหญ่ที่กำลังมองหาผลกำไรเป็นเวลานาน การลงทุนระยะยาวอาจเป็นทางที่ควรเลือก การเลือกการลงทุนระยะยาวทำให้มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีกว่า การลงทุนระยะยาวอาจคาดเดาได้มากกว่าเล็กน้อย และยังต้องมีการจัดการที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเภทอื่น
สำหรับนักลงทุนบางส่วนที่กำลังมองหาผลตอบแทน การเทรดระยะสั้นอาจเป็นความคิดที่เข้าท่า แต่อาจเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง วิธีการเทรดประเภทนี้ต้องการแนวทางที่แตกต่างกันเล็กน้อยจากการลงทุนหุ้นมาตรฐาน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง เราแนะนำให้ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการเทรดหุ้น รวมถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงบางประการที่นักเทรดมือใหม่ทำ
หากคุณพร้อมสำหรับเดินก้าวแรก เราจะแนะนำเกี่ยวกับพื้นฐานของการเทรดระยะสั้น
1. เลือกหุ้นที่เหมาะสม
นักลงทุนบางรายสามารถมองเห็นหุ้นที่มีศักยภาพในระยะยาวได้ดี แต่การหาหุ้นระยะสั้นที่มีแนวโน้มอาจทำได้ยากกว่าเล็กน้อย
เป็นที่ทราบกันดีว่านักเทรดที่มีประสบการณ์หลายคนแทบจะไม่เคยเก็บหุ้นไว้เกินหนึ่งวัน ดังนั้นการสามารถสังเกตและทำนายการเคลื่อนไหวในระยะสั้นได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะเลือกอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงและมั่นคงกว่าเพื่อทำการเทรด
นี่คือกฎบางประการเพื่อค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพในระยะสั้น:
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของหุ้นบางตัวอาจเป็นตัวบ่งบอกถึงศักยภาพ หากมูลค่าของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนระยะสั้น ในทำนองเดียวกัน หุ้นที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กำลังปรับระดับอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำชอร์ต อย่างไรก็ตามมันขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี
- สิ่งสำคัญคือนักลงทุนระยะสั้นควรศึกษาวัฏจักรของตลาดด้วย บางช่วงเวลาของปีอาจทราบกันดีว่าเป็นเดือนที่ไม่มีความเคลื่อนไหวขณะที่เดือนอื่นๆ อาจได้รับผลกำไร วัฏจักรประเภทนี้แทบจะมองไม่เห็นสำหรับนักลงทุนระยะยาว แต่มีความสำคัญเมื่อทำการเทรดระยะสั้น
- องค์ประกอบที่มีค่าสูงอีกประการหนึ่งคือการเข้าใจและรู้แนวโน้มของตลาด ตัวอย่างเช่น การเทรดสวนแนวโน้มเมื่อคนอื่นกำลังขาย (หรือในทางกลับกัน) เป็นสิ่งที่ไม่แนะนำ
2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค
สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าผลลัพธ์ในการเทรดระยะสั้นส่วนใหญ่มักเกิดจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยละเอียดของหุ้นที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่มือใหม่มักมองข้ามอย่างง่ายดาย
ความจริงก็คือตลาดจะรับรู้ทุกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่นักเทรดจะรู้ตัว ผลลัพธ์ของส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการค้นหารูปแบบในประสิทธิภาพของหุ้นที่นักเทรดอื่นอาจพลาด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือวิธีที่ยอดเยี่ยมในการคิดค้นกลยุทธ์นี้ นักเทรดจะใช้ชุดหลักการที่ทำซ้ำได้ ซึ่งช่วยให้เห็นรูปแบบที่อาจถูกมองข้าม ตัวอย่างเช่น ตลาดสมาร์ทโฟนกำลังเฟื่องฟูในเชิงบวก แต่บริษัทแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไปตามแนวโน้มนี้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคอาจเปิดเผยรูปแบบเหล่านี้และช่วยเหลือนักเทรดในแนวทางของพวกเขา
3. การป้องกันความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยง
การจัดการและการป้องกันความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเทรดหุ้น แต่การเทรดระยะสั้นมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
การจัดการความเสี่ยงในการเทรดหุ้นระยะสั้น ก่อนอื่นสิ่งสำคัญคือต้องใช้ Sell Stop หรือ Buy Stop ซึ่งสามารถขายหุ้นของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อราคาลดลงต่ำกว่า (หรือสูงกว่า) ราคาที่คุณกำหนด เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยปกป้องตำแหน่งจากการกลับตัวของตลาดที่เป็นไปได้ สำหรับการเทรดระยะสั้น แนวทางทั่วไปอาจเป็นการกำหนด Sell Stop หรือ Buy Stop ภายใน 10% ถึง 15% ของราคาเปิด
ประการที่สอง คุณควรตระหนักว่าในระยะสั้น การเทรดปริมาณสูง ค่าธรรมเนียม และการเรียกเก็บเงินสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หากนักเทรดไม่ระวังเรื่องนี้ ซึ่งอาจทำให้ตำแหน่งทั้งหมดหายไป นี่คือเหตุผลที่โบรกเกอร์ออนไลน์เป็นที่นิยมสำหรับการเทรดระยะสั้น เพราะค่าธรรมเนียมต่ำกว่า โบรกเกอร์เหล่านี้อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อยต่อการเทรด แต่โดยรวมจะยังคงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์และค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้น
สิ่งสุดท้ายที่ต้องจดจำคือ นักเทรดอาจพิจารณาการมีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายเท่าที่ต้องการ หากพวกเขาต้องการถือหุ้นไว้เป็นเวลานาน การขายหุ้นออกไปอย่างรวดเร็วไม่ได้หมายความว่านักเทรดควรลืมหลักการพื้นฐานของการลงทุน ดังที่เราจะสังเกตเห็นอุตสาหกรรมที่ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค การวางแผนสำรองในกรณีที่ตลาดผันผวนอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์การลงทุน รวมถึงการเทรดระยะสั้น
สรุป
การเทรดหุ้นระยะสั้นอาจเป็นแนวทางที่เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังและการค้นคว้า เช่นเดียวกับตราสารการลงทุนอื่นๆ เทคนิคที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สูงขึ้น โดยทั่วไปมักเป็นเครื่องมือที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ด้วยเหตุนี้การทำความเข้าใจและศึกษาหลักการจึงสำคัญมาก พิจารณาการใช้บัญชีทดลอง เช่นฟีเจอร์ IQ Option เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนทักษะของคุณก่อนทำการลงทุนอย่างถูกต้อง
