รูปแบบหน้าจั่ว (Wedge) คือเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ที่ช่วยคาดการณ์จุดกลับตัวของราคาที่เป็นไปได้ รูปแบบนี้แบ่งออกเป็นสองแบบ ได้แก่ หน้าจั่วขาขึ้น (Rising wedge) และหน้าจั่วขาลง (Falling Wedge) แต่ละอันให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือ

วันนี้เราจะมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนเหล่านี้ เหตุผลที่ได้รับความนิยม และเรียนรู้เทคนิคการจัดการความเสี่ยง

รูปแบบหน้าจั่ว (Wedge) คืออะไร

สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจคือความหมายของรูปแบบหน้าจั่ว รูปแบบหน้าจั่วเป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จำแนกโดยการบรรจบกันของเส้นแนวโน้มบนกราฟราคา เส้นแนวโน้มเหล่านี้มักลาดขึ้นหรือลาดลง เกิดเป็นรูปร่างสามเหลี่ยมที่คล้ายกับหน้าจั่ว

รูปแบบนี้เกิดเป็นจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของพฤติกรรมของราคาภายในช่วงแคบๆ แสดงให้เห็นการสูญเสียโมเมนตัมอย่างช้าๆ ในแนวโน้มที่เกิดขึ้น นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจะพิจารณาว่าเส้นแนวโน้มที่บรรจบกันเป็นตัวชี้วัดที่แข็งแกร่งของจุดกลับตัวราคาที่เป็นไปได้

☝️
  • รูปแบบหน้าจั่วคือรูปแบบที่มักจำแนกโดยเส้นแนวโน้มที่บรรจบกันเหนือช่วงเวลาเทรด 10 ถึง 50
  • มีรูปแบบหน้าจั่วขึ้นและลง
  • ปริมาณเทรดที่ลดลงมักพบได้เมื่อราคามีความเคลื่อนไหวภายในรูปแบบหน้าจั่ว

รูปแบบหน้าจั่วขาขึ้น (Rising Wedge)

รูปแบบหน้าจั่วขาขึ้น (Rising Wedge) บางครั้งเรียกว่า Ascending Wedge รูปแบบนี้ช่วยให้สามารถคาดการณ์จุดกลับตัวขาลงได้ Ascending Wedge เกิดขึ้นเมื่อราคากำลังไต่ขึ้นพร้อมทำจุดสูงสุดที่ยกสูงขึ้นเรื่อยๆ (Higher High) และจุดต่ำสุดที่ยกสูงขึ้นเรื่อยๆ (Higher Low) ราคาหากเข้าใกล้เส้นแนวโน้มจะก่อตัวเป็นช่องแคบๆ ชี้ขึ้น เมื่อราคาใกล้จุดสูงสุด มีโอกาสที่จะย้อนกลับทิศทางและทะลุกรอบด้านล่างเส้นแนวรับ ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงพลังระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยที่ผู้ซื้อกำลังเสียเปรียบ

☝️

สิ่งสำคัญคือต้องรอให้แท่งเทียนแรกปิดต่ำกว่าเส้นแนวรับหลังจากราคาทะลุผ่าน รูปแบบ Ascending Wedge เป็นตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งราคาอาจเด้งขึ้นหลังจากกลับตัวในช่วงสั้นๆ แนะนำให้รอการยืนยันเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก

วิธีหารูปแบบหน้าจั่วขาขึ้น (Rising Wedge)

ในการมองหารูปแบบหน้าจั่วขาขึ้น (Rising Wedge) ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  • ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแท่งเทียนกำลังทำ Higher High และ Higher Low
  • เมื่อจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเชื่อต่อกับเส้นแนวโน้มตามลำดับ มันจะต้องบรรจบกันเมื่อราคายังคงเพิ่มขึ้นต่อไป
  • ปริมาณเทรดสินทรัพย์จะลดลงเมื่อราคากำลังจะกลับตัว
  • รูปแบบนี้จะได้รับการยืนยันเมื่อราคาทะลุใต้เส้นแนวโน้มล่าง และดำเนินต่อไปในแนวโน้มขาลง

โปรดทราบว่า Ascending Wedge ที่เป็นสัญญาณขาลงอาจเกิดขึ้นได้ทั้งแนวโน้มขาขึ้นและแนวโน้มขาลง

รูปแบบหน้าจั่วขาลง (Falling Wedge)

รูปแบบหน้าจั่วขาลง (Falling Wedge หรือ Descending Wedge) คือรูปแบบที่ลาดลง เมื่อราคาลดลง ผู้ขายเริ่มเสียแนวโน้ม ผู้ซื้อค่อยๆ เข้ามา ทำให้ราคาลดลงไปจนถึงถดถอย และสุดท้ายก็ย้อนกลับ รูปแบบ Descending Wedge ช่วยคาดการณ์จุดกลับตัวขาขึ้น รูปแบบนี้เกิดขึ้นพร้อมจุดสูงสุดที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ (Lower High) และจุดต่ำสุดที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ (Lower Low) ซึ่งก่อให้เกิดเส้นแนวโน้มที่มาบรรจบกันเมื่อเชื่อมต่อกันตามลำดับ

☝️

ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือ หน้าจั่วขาลง (Falling Wedge) ได้รับการยืนยันด้วยแท่งเทียนสีเขียวอันแรกที่ปิดเหนือเส้นแนวโน้มบน

วิธีหารูปแบบหน้าจั่วขาลง (Falling Wedge)

ในการค้นหา Descending Wedge บนกราฟราคา ให้มองหาลักษณะต่อไปนี้

  • ราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยมีแท่งเทียนทำ Lower High และ Lower Low
  • การเชื่อมต่อจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดกับเส้นแนวโน้มตามลำดับจะแสดงให้เห็นหน้าจั่วที่แคบชี้ลง
  • ปริมาณเทรดกำลังลดลง
  • รูปแบบนี้ได้รับการยืนยันเมื่อราคากลับตัวและทะลุผ่านเส้นแนวโน้มบน (เส้นแนวต้าน) และดำเนินต่อไปในแนวโน้ขาขึ้น

การตั้งค่า Stop Loss

การเทรดด้วยรูปแบบหน้าจั่วต้องนำเครื่องมือจัดการความเสี่ยงมาใช้เช่นเดียวกับกลยุทธ์เทรดทั้งหมด การตั้งค่า Stop Loss เป็นสิ่งสำคัญของกลยุทธ์เทรดจุดกลับตัวทั้งหมด เพราะช่วยให้นักเทรดสามารถลดความสูญเสียที่เป็นไปได้

เนื่องจากหน้าจั่วสร้างช่องราคาแคบ ระยะระหว่างราคาเข้าเทรดและราคาสำหรับ Stop Loss ค่อนข้างเล็ก สิ่งนี้ทำให้นักเทรดสามารถกำหนด Stop Loss ได้ใกล้กับราคาเข้าเทรดมากๆ เมื่อเริ่มต้นเทรด และได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมากกว่าจำนวนที่เสี่ยงกับการเทรด

รูปแบบหน้าจั่วขาขึ้นหรือขาลง

  • รูปแบบหน้าจั่วขาขึ้น (Rising Wedge) พิจารณาเป็นขาลง เพราะให้สัญญาณช่วงเวลาเมื่อราคาหยุดไต่ขึ้นและย้อนกลับไปสู่แนวโน้มขาลง
  • รูปแบบหน้าจั่วขาลง (Falling Wedge) พิจารณาเป็นขาขึ้น เพราะแสดงจุดกลับตัวของตลาดไปสู่แนวโน้มขาขึ้น

สรุป

การเข้าใจวิธีการหารูปแบบหน้าจั่วและการตีความสัญญาณอย่างถูกต้องถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักเทรดที่ต้องการเทรดจุดกลับตัวของราคา การจดจำลักษณะของหน้าจั่วขาขึ้นและหน้าจั่วขาลง (Rising Wedges และ Falling Wedges) ทำให้นักเทรดใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาด

รูปแบบหน้าจั่วเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์และน่าเชื่อถือ รูปแบบนี้ให้การยืนยันสัญญาณและใช้การจัดการความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง การฝึกอย่างต่อเนื่องและความสม่ำเสมอคือกุญแจสู่ความเชี่ยวชาญของการเทรดด้วยรูปแบบหน้าจั่ว

เทรดตอนนี้