นักเทรดเป็นเหมือนนักสืบที่ต้องไขปริศนาเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเทรดและจังหวะที่ควรเข้าเทรด โดยมีกราฟการเงินคือสถานที่เกิดเหตุ แนวโน้ม รายงาน และจิตวิทยานักลงทุนเป็นผู้ต้องสงสัย ส่วนการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคือเครื่องมือสำคัญ
แบบไหนดีกว่า? การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน อ่านต่อเพื่อหาคำตอบว่าควรใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง
การวิเคราะห์ทางเทคนิคคืออะไร?
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเปรียบเสมือนลูกแก้ววิเศษที่ใช้ดูแนวโน้มราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะอ้างอิงข้อมูลราคาย้อนหลัง กราฟ และตัวชี้วัด เพื่อคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะมีทิศทางอย่างไร แทนที่จะถามว่า “ทำไม” ถึงมีบางอย่างเกิดขึ้น นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจะโฟกัสว่าราคากำลังทำ “อะไร”
ฟีเจอร์สำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิค
มาดูสิ่งที่ทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีประสิทธิภาพ เครื่องมือหลัก และลักษณะเฉพาะ
ตัวชี้วัดทางเทคนิค
เครื่องมืออย่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ รวมถึง Fibonacci Retracement และ RSI เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรด สิ่งเหล่านี้ช่วยหารูปแบบและความเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นไปได้ แพลตฟอร์ม IQ Option มีตัวชี้วัดให้ใช้งานมากกว่า 100 ตัวชี้วัด ซึ่งสามารถบันทึกเป็นเทมเพลต สร้างและบันทึกสคริปต์ตัวชี้วัดของตัวเอง

โฟกัสระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้รับความนิยมเป็นพิเศษสำหรับนักเทรดแบบเดย์เทรดและนักเทรดสกัลปิ้งที่มองหาโอกาสทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาระยะสั้น
พฤติกรรมของราคาคือสิ่งสำคัญ
แล้วปัจจัยอื่นอย่างข่าว รายงานรายได้ หรือเหตุการณ์ทางการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อการคำนวณ ตราบใดที่ไม่อยู่บนกราฟก็ไม่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคืออะไร?
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นเหมือนการทำความรู้จักบริษัทจนคุ้นเคย ซึ่งรวมถึงการสำรวจงบการเงิน แนวโน้มอุตสาหกรรม และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ เป้าหมายคือหาว่าสินทรัพย์ได้รับการประเมินค่าต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป
ฟีเจอร์สำคัญของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
องค์ประกอบใดที่ทำให้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม มาดูแนวคิดหลักและฟีเจอร์ที่ต้องคำนึงถึงดังต่อไปนี้
แนวทางแบบภาพรวม
ให้นึกถึงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย หรือรายงานรายได้ หากส่งผลต่อสินทรัพย์แสดงว่าสิ่งนั้นมีความสำคัญ IQ Option มีเครื่องมือพื้นฐานพร้อมใช้งานหลายอย่าง
- ปฏิทินเศรษฐกิจ – เครื่องมือแสดงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด

รวมถึงเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจทั่วโลก

สามารถกรองได้ตามผลกระทบ ประเทศ และอื่นๆ เพื่อดูข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นตามความต้องการ
- ปฏิทินรายได้ – คอยเตือนนักเทรดเกี่ยวกับวันประกาศรายงานของบริษัท แสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ทางการเงิน และผลกระทบต่อราคาหุ้นที่เป็นไปได้

Yoสามารถดูปฏิทินรายได้ในส่วนการวิเคราะห์ตลาดที่ IQ Option
- ฟีดข่าว – เครื่องมือที่แสดงหัวข้อข่าวที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกจากแพลตฟอร์มเกี่ยวกับข่าวล่าสุดที่ส่งผลกระทบต่อตลาด ฟีดข่าวจะอยู่ในส่วนการวิเคราะห์ตลาดหรือสามารถเพิ่มฟีดข่าวเป็นวิดเจ็ตเข้าไปที่กราฟก็ได้

โฟกัสระยะยาว
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นเครื่องมือยอดนิยมของนักเทรด CFD ที่มีเป้าหมายเพื่อทำเงินจากความเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาว
การตอบคำถามว่า “ทำไม“
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งต้องการรู้ว่าทำไมราคาอาจเปลี่ยนแปลง จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือไม่? จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือไม่? การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะเจาะลึกข้อมูลเพื่อหาเหตุผล
ข้อดีและข้อเสียของการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ดูสรุปข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ฟีเจอร์ | การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน |
กรอบเวลา | เหมาะกับการเทรดระยะสั้น | เหมาะกับการลงทุนระยะยาว |
โฟกัส | ความเคลื่อนไหวของราคาและรูปแบบราคา | ปัจจัยเศรษฐกิจและมูลค่าที่แท้จริง |
เครื่องมือ | กราฟ ตัวชี้วัด และราคาย้อนหลัง | รายงานการเงิน ข่าว และข้อมูลมหภาค |
เวลาเรียนรู้ | เริ่มต้นได้ง่ายแต่ต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ | ซับซ้อนกว่า ต้องตีความข้อมูลลึกกว่า |
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานดีกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือไม่?
คำตอบคือ…ขึ้นอยู่กับเหตุผล
หากกำลังมองหาการเทรดที่รวดเร็วและชอบวิเคราะห์กราฟ การวิเคราะห์ทางเทคนิคอาจเหมาะมากกว่า แต่ถ้าชอบการวางแผนระยะยาว รู้สึกสนใจ “สาเหตุ” ของความเคลื่อนไหวของตลาดที่อยู่เบื้องหลัง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ในความเป็นจริง นักเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ใช้เครื่องมือเพียงอย่างเดียว แต่จะผสมผสานเครื่องมือทั้งสองอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเห็นภาพรวมที่สมบูรณ์มากขึ้น
เคล็ดลับการเลือกแนวทางที่เหมาะสม
- รู้จักเป้าหมายของตัวเอง
ชอบเทรดแบบเดย์เทรดหรือชอบการลงทุนระยะยาว กรอบเวลาคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึง - ผสานทั้งสองเครื่องมือร่วมกัน
ทำไมไม่ลองใช้ทั้งสองอย่าง? ยกตัวอย่างเช่น ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อหาหุ้นที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่ามูลค่าจริง และใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อวางแผนหาจุดเข้าเทรด - ทดสอบการใช้เครื่องมือ
ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในห้องเทรดเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงจากการใช้ทั้งสองเครื่องมือ เริ่มต้นด้วยตัวชี้วัดทางเทคนิค จากนั้นไปดูปฏิทินเศรษฐกิจและรายงานบริษัท - เรียนรู้และพลิกแพลง
ตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ได้ผลวันนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปจากประสบการณ์ที่เคยได้รับ ดังนั้นจึงต้องหมั่นเรียนรู้อยู่เสมอ
สรุป
แล้วแบบไหนดีกว่ากัน การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ไม่มีเครื่องมือที่สามารถใช้ได้ครอบจักรวาล การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้เห็นสัญญาณเข้าออกที่ชัดเจน แต่ไม่ได้อธิบายเหตุการณ์ตลาด ขณะที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนำเสนอภาพรวม แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมและไม่ได้บอกถึงเซนติเมนต์ของนักเทรด ใช้งานทั้งสองเครื่องมือร่วมกันเพื่อรับข้อมูลที่ช่วยตัดสินใจอย่างรอบด้าน